วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

แหล่งท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

แหล่งท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 
 
 
เบิร์น Bern

เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์เป็นเมืองโบราณเก่าแก่และโรแมนติก การเดินเที่ยวชม ความงดงามของ สถาปัตยกรรมในเขตเมืองเก่า เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เมื่อมีโอกาสได้มาเยือนนครแห่งนี้ Bern สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้วโดยมีแม่น้ำ Aare ล้อมรอบตัวเมือง แม่น้ำแห่งนี้เปรียบเหมือนปราการธรรมชาติซึ่ง ป้องกันเมืองไว้ทั้ง สามด้านสำหรับด้านที่สี่ชาว เมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ และโดยการรักษาผังเมืองให้มีสภาพดังเดิมตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา Bernจึงได้รับการ ประกาศ ให้เป็นมรดก โลกของ UNESCO ซึ่งเป็นเมืองเดียวในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ การเดินชมเมือง ควรเริ่มจาก Rose Garden เพียง 5 นาทีก็จะพบกับบ่อเลี้ยง หมีของเมือง ( หมี เป็น สัญลักษณ์ของ Bern )

 
หอนาฬิกา Zytgloggeturm
หอนาฬิกานี้ใข้เป็นประตูเมืองแห่งแรก ของกรุงเบิร์น ในช่วงปี ค.ศ. 1191 ถึง 1256และเมื่อม ีการสร้าง Prison Tower ขึ้น จึงได้เปลี่ยน ไปใข้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน ในสมัยก่อนนั้นตึกนี้ไม่ได้เป็นนาฬิกาอย่างทุกวันนี้ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1530 จึงได้มีการติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์
 
 
Munster St. Vinzenz

โบสถ์นี้ตั้งอยู่ระหว่างถนน Munstergasse และถนน Herrengasse ซึ่งจากถนน
Krammgasse ก็ให้เดินเลี้ยวขวาไปก็จะเจอโบสถ์นี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางเขตเมืองเก่า โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ประจำเมืองของกรุงเบิร์น ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ ์ ที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของ สวิสเซอร์แลนด ์ด้วย โบสถ์มีลักษณะเป็นศิลปะ แบบโกธิคยุคกลาง ได้เริ่มมีการก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ซึ่งการดำเนินการสร้าง โบสถ์แห่งนี้กินเวลายามนามไปจนถึงปี ค.ศ. 1573 เวลาประมาณ 150 ปีที่ใช้ไปนั้น สร้างได้เพียงแค่ตัวโบสถ์ ซึ่งมีความสูงประมาณ 64 เมตรเท่านั้น ต่อมาใน ปี 1889-1893 ก็ได้มีการต่อเติมสร้างส่วนที่เป็นหอ คอยขึ้นจามีความสูงทั้งสิ้น 100 เมตร ถ้าใครมีเวลาหรือมีแรงมากพอทีจะขึ้นบันไดวนเพียงแค่ 285 ขั้น ก็สามารถเดินขึ้นไปบนยอดหอคอยเพื่อชม ทัศนีภาพของกรุงเบิร์นได้ ซึ่งเค้าว่ากันว่าสำหรับวัน ที่ฟ้าใส มากๆ จะสามารถ มองเห็นบอดเขา Eiger, Mönch และ Jungfrau จากหอคอยของโบสถ์นี้เลยทีเดียว
 

 
อินเตอร์ลาเก้น Interlaken
 
"สวยเหมือนเมืองในฝัน" คือคำจำกัดความของ Interlaken ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ Brienz สถานที่ตากอากาศชั้นนำส่วนใหญ่ในถิ่นที่เรียกกันว่า Bernese Oberland ตั้งอยู่ตามเชิงเขา Eiger, Monch และ Jungfrau ทิวทัศน์แถบนี้บริสุทธิ์และสวยงามเกินคำบรรยาย จึงเป็นสถานตากอากาศที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกชื่นชอบมากที่สุด
 
 
 
Jungfraujoch หลังคาแห่งยุโรป
 
หลังคาแห่งยุโรป ล่าสุดได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกของUnescoเมื่อเดือนธันวาคม 2544 สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป ที่ไม่สามารถลืมไปได้ ในการทัศนาจรภูเขา ซึ่งมีความ สูงถึง 3454เมตร พบกับสิ่งสวยงามที่นี่คือ วังน้ำแข็ง และทัศนียภาพ ที่งดงามประกอบ ไปด้วย Sphinxหอคอยชมทัศนียภาพ ที่อยู่เหนือ ธารน้ำแข็ง Aletsch ( ยาวที่สุดในเทือกเขา Alps ) และยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกันนี้ยังจะเดินเล่นบนหิมะ นั่งกระดานเลื่อนโดยมีสุนัข Huskyลากสนามเล่นสกี สโนว์บอร์ท สำหรับฤดูร้อนหรือ ท่านที่ชอบการท้าทาย ก็มีการผจญภัยอีกหลายอย่าง รับรอง 100% ท่านจะพบกับ หิมะ และน้ำแข็งที่นี่
 
 
 
ล่องเรือในทะเลสาบและชมปราสาทโบราณ

ล่องเรือในทะเลสาบ Thun และ Brienz ในวงล้อมของภูเขาสูง แวะชมปราสาท Thun ที่สร้างขึ้นใน ศตวรรษที่ 12 และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงในห้องโถงใหญ่ของปราสาท เปิดให้ชมระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เดือนตุลาคม Spiezชมปราสาท โบราณที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม ค่าโดยสารเรือฟรีโดยใช้สวิสพาสส์
 

แหล่งท่องเที่ยวที่อยากไปในยุโรป

แหล่งท่องเที่ยวที่อยากไปในยุโรป

 
 
 

Kerkenhof Garden สวนเคอเคนฮอฟ

เป็นอีกหนึ่งสวนสวยในฝันที่หลายคนปารถนาที่จะมาเยือน สวนแห่งนี้ตั้องอยู่ที่เมือง Lisse ประเทศ Netherlands เมื่อพูดถึงดอกทิวลิป หลายคนต้องนึกถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ และสวนเคอเคนฮอฟที่สวยงามสะพรั่งไปด้วยดอกทิวลิปแห่งนี้
ในฤดูใบไม้ผลิของทุกปี ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม สวนเคอเคนฮอฟจะเปิดให้เข้าชมดอกทิวลิปและดอกไม้แสนสวยนานาพรรณ บริเวณทางเข้ามีสาวน้อยตัวใหญ่ชาวดัชต์ในชุดประจำชาติ คอยต้อนรับให้คำแนะนำเกี่ยวกับสวนและจำหน่ายแผนที่ให้แก่ผู้ที่ต้องการ ในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสรรและพรรณไม้น้อยใหญ่ที่ผลิดอกออกใบต้อนรับฤดูใบไม้ผลิลำธารและสระน้ำน้อยใหญ่ลัดเลาะจัดวางในสวนสวยอย่างลงตัวการเลือกสีสรรพรรณดอกไม้ปลูกลงแปลงได้อย่างงดงามทุกสีสรรสามารถสะกดให้ตะลึงเพลิดเพลินได้อย่างอิ่มเอม
 
 
 
สวนเคอเคนฮอฟมีพื้นที่ราว 32 ไร่  แต่เดิมเป็นเพียงสวนพืชผักสมุนไพรต่อมามีชื่อเสียงจากงานการจัดแสดงดอกทิวลิป ซึ่งเป็นงานจัดแสดงที่เกิดจากการรวมตัวกัน ของกลุ่มผู้ค้าหัวพันธุ์ทิวลิปของเนเธอร์แลนด์ ทิวลิปไม่ได้เป็นพืชท้องถิ่นดั้งเดิมของเนเธอร์แลนด์ ทิวลิปถูกค้นพบเป็นครั้งแรกและบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ที่ประเทศตุรกีและภูมิภาคใกล้เคียง ในปี คศ 1593 Carolus Clusius นักพฤกษศาสตร์ผู้มีชื่อเสียง แห่ง Leiden’s Hortus Botanicus ได้นำทิวลิปเข้ามาทดลองปลูก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศเนเธอแลนด์ผลิตหัวทิวลิปได้ปีๆนึงราวสามพันล้านหัว ส่งออกขายต่างประเทศราวสองพันล้านหัวต่อปี ที่เหลือปลูกให้ออกดอกจัดแสดงภายในประเทศ
 
 

สวนเคอเคนฮอฟเป็นสถานที่จัดแสดงดอกทิวลิปที่สำคัญมากแห่งหนึ่งปัจจุบันนอกจากดอกทิวลิปแล้ว เนเธอแลนด์ยังผลิตหัวของต้น แดฟฟอร์ดิล ไฮยาซินท์ และพรรณไม้หัวดอกสวยงามต่างๆอีกมากมายหลายชนิด